วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

OS ' #เจ้าแฟนบ้านั่นของลู่หาน | HUNHAN



Title : เจ้าแฟนบ้านั่นของลู่หาน

Hashtag : #เจ้าแฟนบ้านั่นของลู่หาน

Pairing : sehun x luhan


บุคลากรสามคนยืนเก็บของอยู่ที่ห้องล็อกเกอร์ด้านในในร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่ทำงานการกันอย่างเหน็ดเหนื่อยเสร็จช่วงปีใหม่

“พี่กลับแล้วนะ เตนล์ ฮานิว” เสียงๆหนึ่งเอ่ยคำลาเมื่อเก็บของของตัวเองใกล้เสร็จ

“ครับพี่ลู่หาน เดินทางปลอดภัยนะครับ เจอกันอาทิตย์หน้าฮะ” เตนล์ตอบกลับมาพล่างส่งยิ้มให้

“อย่าลืมง้อพี่เซฮุนด้วยนะ อิอิ” ฮานิวเอ่ยแซวเสียงทะเล้น

“จิ๊ส์ อิอิบ้านแกน่ะสินิว ไอ้บ้านั่นต่างหากที่ต้องง้อพี่”

“จ้าๆ กลับบ้านปลอดภัยครับพี่” ฮานิวเอ่ยลา

“บอกพี่เซฮุนอย่ารุนแรงกับพี่ผมนะครับ” เสียงแซวของเตนล์ทำเอาร่างที่กำลังเดินไปที่ประตูหยุดกึกก่อนจะหันมาแว้ดใส่น้อง

“ไอ้เตนล์!” แต่ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรอีกและเลือกที่จะผลักประตูออกไป

กรุ๊งกริ๊ง

บทสนทนาจบลงพร้อมกับเสียงกระดิ่งหน้าประตู ร่างกะทัดรัดไม่สูงไม่เตี้ยเดินไปหยุดอยู่ที่รถยนต์แดงเลือดนกแล้วขับเคลื่อนออกจากร้านอาหารที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน ตั้งแต่ขึ้นปีใหม่มาลู่หานแทบไม่ได้หยุดพักเลย เนื่องจากช่วงเทศกาลคนเยอะมากเป็นพิเศษด้วย เมื่อกี้ที่ลากับน้องๆและบอกว่าเจอกันอีกทีอาทิตย์หน้าคือการที่เขาจะได้หยุดยาวสี่วันเต็ม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่เขาจะได้พักผ่อนสักที

อาจจะสงสัยว่าทำไมคนมีรถขับอย่างเขาถึงมาทำงานที่ร้านอาหาร ก็ใจมันรักใจมันชอบ ถึงทางบ้านจะคัดค้านอย่างไรก็ตาม เขาไม่ฟัง บ้านเขามีฐานะแต่ลู่หานไม่ติดหรู ไม่ทำงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ไม่ดูแลกิจการอันไหนของบ้านเป็นพิเศษ แต่เลือกจะทำงานอยู่ที่ร้านอาหารที่มีเด็กยังไม่ทันเรียนจบมาบริหาร

ที่เลือกที่นี่เป็นเพราะความท้าทายด้วยส่วนหนึ่ง และอีกส่วนคือน้องๆมันกันเองและเคารพเขา ถึงแม้เขาจะเป็นเพียงลูกจ้าง แต่ก็ไม่มีทีท่ายโสตนว่าเป็นนายเลย ย้อนกลับไปที่ลู่หานไม่ติดหรู ปกตินั่งรถเมล์มาทำงานเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นเขาเลิกงานดึกมาก แฟนของเขาเลยให้เอารถมาดีกว่าจะได้สะดวก

นึกถึงบุคคลที่สี่แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ก็ เซฮุน เจ้าแฟนบ้าของลู่หานไงจะใครล่ะ เราสองคนทะเลาะกันเมื่อสามวันก่อน อยู่บ้านเดียวกันเจอหน้าก็ไม่คุย ต่างคนต่างงอน แต่ลู่หานผิดเสียที่ไหนกันล่ะ เขาทำงาน เสิร์ฟอาหารจนหัวปั่นเพราะคนเยอะและพนักงานไม่พอเลยไม่มีเวลาให้ในช่วงปีใหม่ ไม่ได้เคาท์ดาวน์ด้วยกัน เตนล์กับฮานิวเจ้าของร้านเมื่อรู้เรื่องก็ขอโทษขอโพยใหญ่

มันไม่ใช่ความผิดของน้องๆ คิดๆเลยคือถ้าไม่เปิดร้านช่วงปีใหม่ลูกค้าจะกินอะไรล่ะฟร๊ะ! ลู่หานนี่งงใจ เขาก็บอกกันเซฮุนไปแล้วว่าว่างเมื่อไหร่ เพราะยังไงน้องๆก็ให้หยุดยาวอยู่แล้ว แต่เจ้าแฟนตัวโย่งกลับงอแงอยากจะเคาท์ดาวน์กับเขาให้ได้ พอไม่ได้ดั่งใจก็งอนเป็นตูดไปแล้ว

แล้วไงล่ะ! ลู่หานก็งอนเหมือนกันที่เซฮุนพูดไม่รู้เรื่องอ่ะ!!

คิดเพลินๆไปป๊อบแป๊บลู่หานก็ขับรถมาถึงบ้านทรงเอขนาดสองคนอยู่กลางป่า เรียกได้ว่าห่างไกลจากถนนสายหลักอยู่ไม่น้อย ที่เขาเลือกที่จะสร้างบ้านตรงนี้เพราะมันส่วนตัว ส่วนตัวมากด้วย แทบไม่มีเพื่อนบ้านเลย โถ่ว

มองจากนอกบ้านแล้วข้างในมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่ไม่หรอก เซฮุนอยู่ข้างในแน่ๆเพียงแค่นอนแล้วเท่านั้น เจ้าแฟนของเขานอนเร็วจะตายชัก อนามัยสุดๆผิดจากลู่หานลิบลับเลย

แกร็ก แอ๊ด

เมื่อเปิดประตูก็พบความมืดอย่างที่เจอประจำ แต่ที่แปลกตาไปเห็นจะเป็นสายไฟดับที่ทอดยาวขึ้นไปทางบันได และอีกอย่างคือสายไฟประดับที่ประดับตามขาตั้งภาพวาดไปจนถึงกรอบไม้ขึงผืนผ้าใบที่ลู่หานใช้วาดภาพเป็นงานอดิเรก พอสังเกตดีๆจะเห็นโพสต์อิทติดอยู่ด้วย ลู่หานไม่รอช้าที่จะเข้าไปหยิบมันมาอ่าน

สวัสดีคนสวย

คนสวยเหรอ.. คนที่เรียกลู่หานแบบนี้มีคนเดียวนั่นแหละ ลู่หานคิดก่อนจะอ่านประโยคต่อไป

คนสวยเดินตามสายไฟไปนะ
แล้วอย่าลืมหยิบโพสต์อิทอื่นๆด้วยล่ะ

ไม่รู้ทำไมลู่หานทำตามอย่างว่าง่าย แต่กะนั้นก็เดินไปเปิดไฟเสียก่อน เขาไม่อยากเดินชนอะไรให้เจ็บตัวหรอกนะ เมื่อเปิดไฟให้สว่างแล้ว ลู่หานก็เดินตามสายไฟไปไม่ไกลก็ถึงโซฟาขนาดเล็ก ซึ่งกลางโซฟาก็มีกล่องของขวัญกล้องเล็กวางอยู่พร้อมโพสต์อิท เขาหยิบกล่องนั้นขึ้นมาแล้วอ่านข้อความ ถึงจะอยากแกะกล่องใจจะขาดแต่อ่านก่อนแล้วกัน

หยิบกล่องขึ้นมาแล้วใช่มั้ยล่ะ
รู้ว่าอยากแกะใจจะขาด แต่รอก่อนนะ
เดินตามสายไฟไปเรื่อยๆก่อน

แหวะ รู้ดีอย่างกับอยู่ข้างเขาตอนนี้อย่างนั้นแหละ ลู่หานเดินตามไปอีกครั้ง และคราวนี้มาหยุดอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว เขาเห็นว่ามีโพสต์อิทอยู่สองแผ่นที่โต๊ะ เลยเลือกแผ่นที่ใกล้ตัวมาอ่านก่อน

ขอโทษนะครับ..
ขอโทษที่งี่เง่า ขอโทษที่ชวนทะเลาะกันตรงนี้
ทั้งๆที่วันนั้นคนสวยทำของโปรดให้แท้ๆ

อ่าใช่.. นั่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ลู่หานงอนอีกฝ่าย วันนั้นเราทะเลาะกันที่โต๊ะกินข้าว แถมเขายังทำของโปรดเพื่อเอาใจเจ้าแฟนบ้านั่นด้วยเพราะก่อนหน้านั้นคุยกันไม่ลงตัว แต่มันกลับชวนทะเลาะซะนี่ ยิ่งนึกถึงยิ่งหงุดหงิด ชิชิชิ! แล้วจะให้เดินไปไหนอีกนักหนาวะ คิดไปไม่วายหยิบอีกแผ่นมาอ่าน

อย่างเพิ่งหงุดหงิดสิคนสวย
เดินไปอีกหน่อยนะครับที่รัก..

จากที่หน้าร้อนเพราะโกรธอีกฝ่ายก็กลับเปลี่ยนเป็นอาการหน้าร้อนวูบวาบเพราะเขินแทน.. เจ้าแฟนบ้านั่นไม่ค่อยเรียกลู่หานว่าที่รักเท่าไหร่ บอกว่าเดี๋ยวเขาได้ใจ เหอะ

แต่ก็จริงนะ ถ้าเรียกมากๆเขาอาจจะชินชาไปกับคำนั้นก็ได้.. สู้นานๆครั้งฟังแล้วกร๊าวใจไม่ดีกว่าเหรอ

ลู่หานเดินตามไปอีกจนขึ้นบันไดไป เอาจริงๆบ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่เลย ขึ้นบันไดไปสี่ห้าก้าวก็ถึงชั้นบนที่เป็นห้องใต้หลังคาแล้ว นอกจากจะเป็นห้องใต้หลังคายังเป็นที่หลับที่นอนของเขากับเจ้าแฟนบ้านั่นด้วย พอขึ้นมาก็พบความมืดแต่ไม่มาก เพราะยังมีไฟประดับติดอยู่มากมายเลย ลู่หานเปิดไฟอีกครั้ง และครั้งนี้มันทำให้เขาอึ้ง..

มีของประดับห้อยอยู่เต็มไปหมด ทั้งธงแฟนซี ทั้งธงรูปดาว มันปฏิเสธไม่ได้ว่าน่ารัก และมากเสียด้วย.. ลู่หานเป็นคนชอบของพวกนี้ ของน่ารักๆ เห็นที่ไหนเข้าหน่อยก็ซื้อมาแต่งบ้าน อย่างตุ๊กตากระต่ายสามแฝด ยู่ยี่ บู้บี้ และอู้อี้ ก็ซื้อมาแต่งตัวให้มันน่ารักเลย แต่ก็ตกลงกับเจ้าแฟนบ้านั่นว่าจะเว้นห้องนอนเอาไว้

และก็ไม่คิดว่ามันจะซื้อมาตกแต่งห้องนอนด้วย...

ไม่เพียงแค่นั้นหรอก ยังมีรูปาพที่ลู่หานไม่เคยเห็นแปะอยู่ที่ผนังใกล้เตียง

“ใครวาดอ่ะ?” พูดกับตัวเองเบาๆ แต่เหมือนจะมีคนมาตอบเมื่อต่อมาลู่หานก็ได้รับสัมผัสที่กอดแนบมาจากด้านหลังพร้อมเสียงกระซิบเบาๆแต่มันกลับชัดเจนข้างหูของเขา

“ผมเองครับ” ฟังก็รู้ว่าเป็นเสียงของเจ้าแฟนบ้าของลู่หานเอง ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอย่างอื่นต่อร่างในอ้อมกอดก็ต้องสะดุ้งอย่างกับโดนน้ำร้อนลวกเมื่อได้รับสัมผัสเปียกชื้นที่ใบหูข้างขวา

ป้าบ!

“โอ๊ย! คนสวยอ้า! ตีแฟนทำไมครับ?

“ก็คนหล่อลามปาม แฟนก็เลยตีไง ทะลึ่งไม่เข้าเรื่องเลย” ลู่หานพลิกตัวกลับไปมองหน้าฝ่ายตรงข้ามแล้วบ่นอุบ เจ้าแฟนบ้านั่นหน้างอเล็กน้อยก่อนจะปล่อยยิ้มล้อเลียนมาทางเขา

“ทีเมื่ออาทิตย์ก่อนล่ะยังบอกให้แฟนทำอีก คนสวยชอบก็บอกมาเถอะครับ”

“จะเอาอีกใช่มั้ยเซฮุน! นี่แหนะ!” คราวนี้ไม่เปิดโอกาสอะไรทั้งนั้น ลู่หานจัดการรัวฝ่ามือลงไหล่ของเซฮุนแฟนตัวดี นี่ยังไม่หายงอนดีนะเฟ้ย! “กูงอนหนักกว่าเก่าดีมั้ยห้ะ!

“โอ๋ๆนะคนสวย แฟนขอโทษ แฟนสำนึกผิดแล้วครับ ยกโทษให้แฟนนะครับนะ” ลู่หานเห็นท่าทางออดอ้อนนั่นแล้วตลก “คนสวยจ๋า แฟนรักคนสวยนะ ที่แฟนงอนเพราะแฟนรักนะจ้ะนะ” ลู่หานขำพรืดก่อนจะพูดอะไรให้คนฟังทำหน้าฉงน

“ขออย่างนึงดิ จะยกโทษให้” คนตรงหน้ายอมพยักหน้ารับแต่โดยดี “จูบหน่อย คิดถึง” เพียงสั้นๆก็ทำให้เจ้าแฟนบ้านั่นตาโตกว่าไข่ห่านได้

เมื่อคนตรงหน้าได้สติก็ไม่รอช้า แขนยาวๆกวาดเอวของลู่หานให้เข้าไปแนบชิด แล้วใช้มือรั้งท้ายทอยของเขาให้เชิดหน้าขึ้น นิ้วหัวแม่มือลูบๆบริเวณริมฝีปาก ลู่หานคิดว่าเซฮุนจะจูบเขาเลย แต่เปล่า.. ร่างสูงไล่จูบไปทั่วใบหน้า เริ่มตั้งแต่กระหม่อม ขมับ จมูก พวงแก้ม ปลายคาง ก่อนจะใช้หน้าผากและจมูกชนกัน คนตรงหน้าจ้องมองเข้ามาในตาของลู่หาน เวลาที่เขาไม่อยากเขินแล้ว..

ใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนขยับเข้าใกล้ลู่หานมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่ง.. ริมฝีปากประกบกัน...

เป็นจูบที่ไม่มีความวาบหวาม มันไม่ได้ทำให้รู้สึกวูบวาบ ไม่ได้ร้อนแรงหรือดุดันอะไร แต่มันกลับหวาน หวานกว่าครั้งไหนๆที่เราสองคนจูบกัน และปริ่มไปด้วยความสุขจนเกือบล้น ลู่หานแทบจะสำลักความสุขตายอยู่แล้ว เจ้าแฟนบ้านั่นกดแช่ริมฝีปากไว้สักพักก็ถอนออก นอกจากสัมผัสอุ่นๆที่ปากของลู่หานกับความรู้สึกที่อยู่ข้างในจะไม่ได้จางหายแล้ว มันกับทวีคูณขึ้นไปอีกด้วย

บ้าเอ้ย.. รักจะตายอยู่แล้ว...

“แฟนว่า เรามาเล่นไอ้นี่กันดีกว่า” ลู่หานมองมือที่ชูบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา

“ดอกไม้ไฟเหรอ เอาสิ” พูดพร้อมส่งยิ้มให้เป็นคำตอบ “ปิดไฟด้วยนะจะได้สวยๆ”

“ในโลกนี้อ่ะ นอกจากคนสวยก็ไม่มีอะไรสวยแล้ว คนสวยสวยที่สุดอยู่แล้ว”

“แหวะ ขี้ยอว่ะ ถ้าเป็นคนอื่นพูดว่าแฟนสวย แฟนตบไปแล้ว” ลู่หานกรอกตา

“แต่นี่เป็นเซฮุนไง เซฮุนคนหล่อแฟนของคนสวย” จ้า ไม่เถียงแล้วจ้า

“เออว่าแต่ในกล่องนี่อะไรเหรอ?” ร่างสูงมองกล่องในมือลู่หานก่อนจะมองหน้าอีกครั้ง
“อยากรู้ก็ดูเองครับ” โห ลู่หานหน้าหงิกก่อนจะแกะกล่องออก

พอเปิดออกมาก็ต้องขมวดคิ้วฉับ ของข้างในคือตุ้มหูทรงสี่เหลี่ยมสามมิติแบบมินิมอลที่สมัยนี้นิยมใส่กัน มันจะไม่น่าสงสัยอะไรเลยถ้ามันไม่ได้มีข้างเดียว อะไรวะ..

“ก็คนสวยเจาะข้างเดียวไง ส่วนอีกข้างแฟนใส่ นี่ๆ” เจ้าแฟนบ้านั่นเอาผมทัดหู เผยให้เห็นตุ้มหูในลักษณะเดียวกัน “ป่ะ เล่นกัน อีกนิดก็จะเที่ยงคืนแล้ว เรามาเคาท์ดาวน์ย้อนหลังกันดีกว่า”

“อื้อ..” ลู่หานตอบไปเพียงเท่านั้น


ถึงแม้ในวันขึ้นปีเราสองคนจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่ก็ใช่ว่าเวลาของเราจะมีแค่วันนั้นเสียเมื่อไหร่
ที่เรางอนกัน ก็ใช่ว่าจะงอนกันไปตลอด
ที่ไม่เล่นตัวโกรธต่อ ก็เพราะคิดถึง
ที่กล่าวไปทั้งหมดอาจจะไม่ได้ซึ้ง หวาน ละมุนอะไร แต่ทุกอย่างที่แสดงออกไปก็เพราะรัก
ลู่หานไม่รู้ว่านิยามความรักของทุกคนเป็นแบบไหน
ไม่รู้ว่าหน้าตาความรักของใครเป็นอย่างไหร่


ลู่หานรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าความรักของตัวเอง



มีชื่อเรียกว่า โอ เซฮุน..




ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ ส่งความสุขย้อนหลังนะคะ ปีใหม่ก็ขอให้เจอเรื่องดีๆ สุขภาพแข็งแรงตลอดปีค่ะ



วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

OS ' เลขาหน้าใส หัวใจ520 อรั๊ยย >< : HUNHAN



Title : เลขาหน้าใส หัวใจ520

Pairing : sehun x luhan

Hashtag : #เลขาหน้าใสหัวใจ520

PG – 15+ คำหยาบพ่อขุนรามมากเพราะบอสกับเลขาฮาร์ดคอร์



“เสียงนกร้องจิ๊บๆ นกร้องมิ๊บๆ จิ๊บจิ๋วว ตาล่าลาหล่าลาล้าอ่าอ่าอ่า”

“ร้องเพลงอะไรอะของมึง -*- เสียงอย่างกับควายออกลูก” อะไรดู๊? ใครมาว่าเสียงใสๆของเลา

“อ้าว อรุณซีวัสดิ์ค่ะบอส” โป๊ก! โครม! “โอ้ย!! บอสเซอ้า โยนความรักมาตะไม ให้ลู่ดีๆก็ได้ มันเจ็บนะคะ” ปากเล็กพูดด้วยน้ำเสียงอิดออดพร้อมลูบหัวตัวเองปอยๆ อู้ยกู มีฟามแอ๊บใสหัวใจสี่ดวงสุด ครุคริดีแท้ รับรางวัลออสก้ารัวๆจ้า

“ความรักบ้านมึงหน้าตาเหมือนปฎิทินไหม? ถ้ายังพูดคะขาอีกกูจะตัดดุ้นมึงให้เหี่ยนเลย” สิ้นเสียงทุ้มลู่หานก็เบ้ปากมองบนสามวิก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นไปนั่งงานในที่ประจำ

โอเค เรามาแนะนำตัวกันก่อยดีก่า สวัสดีฮ้า แซ่ ลู่ ชื่อ หาน นะแจ้ะ โนเทย โนเก้ง โนสาวดุ้น จริงๆแล้วเขาก็มีดุ้นแต่ไม่ใช่สาวหรอก ชายแท้(เหรอ?)นะครับผม แต่ที่พูดคะขาเนี่ยเพราะความอยากแกล้งบอสตัวเองล้วนๆ คนบ้าอะไรวันๆเอาแต่นั่งหน้าจอคอมไม่ค่อยขยับไปไหนเลย อายุอานามก็จะเข้าสามห้าอยู่มะลอมมะล่อ กระดูกกระเดี้ยวก็จะผุจะพัง ข้าวแต่ละมื้อก็สั่งอีเลไปซื้อบ่อยๆ อ่อ อีเลก็กูนี่แหละ เลขาน่ะ ลู่หานเป็นเลขาของบอสเซ.. งุ้ย ของบอสเซ (*´*)

บอสเซ หรือ โอ เซฮุน ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งดุจเปรต ใบหน้าคมดั่งมีด จมูกโด่งเหมือนเอายอดเขาที่ไหนสักที่มาวางไว้ และทุกคนคิดถูก กูเว่อร์เองแหละสรุปคือหล่อ จบนะ ไม่จบก็หลังไมค์รอทำงานเสร็จก่อน เวิ่นปากแฉะมานาน ต่อๆ จริงๆก็จะไม่หนุ่มแล้วอายุปาเข้าไป 32 แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ไม่เต็มใจที่จะไปตามวัยแถมดีกรีหัวหน้าฝ่ายแล้วก็สเปคสาววัยทำงานหลายๆคนเลยรวมถึงกูผู้นี้ด้วยจ้า

ใครจะไม่ชอบล่ะ มาดแมนแฮน(น่า)ซั่มรูปหล่อพ่อ(คา)รวย(หย่าย) :3 อั๊ยย วงเล็บบ่อยเหลือเกินกู เอาจริงๆลู่หานไม่ใช่เกย์เก้งไรนะ แต่พอเจอบอสแล้วอยากเป็นเลยอะ สารภาพว่าวันแรกที่เข้ามาทำงานกูกลืนน้ำลายไปหลายอึกมากกก  คือบับงานดีงานปัง ตอนนั้นบอสเซยังหนุ่มอายุ 25 งี้ ส่วนหานนี่ก็เพิ่งเรียนจบมาเลยอิอิ ใสๆไร้ปาศพกาน อีห่อ คนละสบแล้ว เออนั้นแหละจนตอนนี้ก็ผ่านมาแปดปี อีโดกยังไม่ได้แดกเลยจ้า แก่หงำเหงือกกันหมดละสัส ถถถถ

ไม่รู้อยู่กันมาได้ไงน๊านนาน แรกๆลู่หานก็ไม่อยากทนกันปากหมาๆของบอสเท่าไหร่ แต่เพราะรักเลยนะถึงทนมาได้ขนาดนี้ ถึงจะปากหมามากเพียงใดแต่ก็ยอมพลีกายให้ละกัน โฮะๆ แรดชริงๆเล้ย แต่งให้กูดีๆเรียบร้อยเหมือนผ้ายับที่ยัดไว้ไม่ได้ไงวะเอ้อ

“ด่ากูปากหมาอีกแล้วล่ะสิมึง” เนี้ยะ ความเนื้อคู่มั้ยล่ะ รู้ใจอย่างกับอะไรดี “ถ้ามึงยังไม่แตะงาน.. ตัดเงินเดือน!

“จ้าๆ เมียยอมแล้วจ้าผยัวจ๋า” แต่มันก็แปลกที่บอสปากหมามุ่ยของเขาไม่เคยว่าจริงจังที่เขาเล่นแบบนี้ หรือเป็นเพราะชินแล้วก็มิอาจทราบได้ แต่ลู่หานเชื่อว่าบอสมีใจให้สุดพลังอะ ไม่งั้นจะทนกูได้เหรอ ไล่ออกตั้งแต่วันแรกที่กูกลืนน้ำลายแล้ว ถถถถถ


25%




ชริงๆเน้นฮานะ แต่ไม่รู้จิฮามั้ย มาดูอีเลอ้อยบอสกันค่ะทู๊กคล ถถถถถถ

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

OS ' Autism. : HUNHAN



Title : Autism.

Hashtag : #osออทิสติกลู่หาน

Pairing : sehun x luhan

Image : จิตแพทย์ โอ เซฮุน กับ น้องลู่หานที่เป็นออทิสติก

PG – กุ๊กกิ๊ก ใสๆ วัย 3+ ขวบ อิ.อิ



“พ่อฝากลูกเพื่อนพ่อด้วยนะ น้องไม่ดื้อหรอก”

“น้องเป็นออทิสติกเหรอครับ?” เซฮุนถามพ่อของตน พ่อเซฮุนพยักหน้ารับ “นี่พ่อโอนเคสน้องให้ผมรักษาต่อแล้วใช่ไหม?

“เอ่อ อ่าใช่” เซฮุนส่ายหน้านิดหน่อย เอาจริงๆคือควรบอกให้เขารู้ก่อนด้วย “หน่านะ เนี่ยเอา*ชาร์ทไปดู น้องไม่ดื้อแน่นอนเพราะน้องไม่กลัวคนแปลกหน้าอยู่แล้ว พ่อไปแล้วนะ มีเคสต้อง*ซีซ่าบ่ายสอง”

เซฮุนรับชาร์จจากหมอใหญ่หรือพ่อของเซฮุน ก่อนที่ท่านจะเดินออกจากห้องไป ใช่ หมอใหญ่คือพ่อของเซฮุน เป็นหมอทำคลอดครับ ท่านแยกสาขาจากโรงพยาบาลในตัวเมืองมาเปิดแถบๆชนบทในพื้นที่ห่างไกลนิดหน่อยด้วยเหตุผลที่ว่า ที่นี่มีชาวบ้านป่วยเยอะแยะ แถมหน่วยงานยังเข้าไม่ถึงอีกด้วย เป็นหมอบางทีก็ต้องเข้าหาคนไข้ เพราะหลายพื้นที่ห่างไกลคนไข้เข้าหาเราไม่ได้ อีกอย่าง กูจะได้อยู่ห่างๆแม่มึงบ้าง บ่นทุกวันกูหูชาฟังการเต้นหัวใจคนไข้ไม่รู้เรื่องแล้วหนิ เออ พ่อกู แรกๆก็ซึ้งนะ

ร่างสูงก็หันกลับไปสนใจเจ้าตัวจ้อยที่นั่งโยกตัวไปมาและเริ่มลุกเดินไปรอบๆห้องทำงาน เซฮุนอ่านแฟ้มประวัติ “ชื่อลู่หาน อายุ 17 ปี เรียนอยู่ ม.2 พัฒนาการด้านพฤติกรรมค่อนข้างดี แต่ยังมีอาการอยู่ไม่นิ่งอยู่” เซฮุนอ่านอย่างอึ้งๆ เรียนตั้ง ม.2 แล้ว สุดยอดเลย “ด้านภาษาพูดเป็นคำได้แล้วแต่ยังเรียงประโยคไม่ค่อยถูก ประสาทสัมผัสที่ห้าดี โอ้โห เรียกได้ว่าเกือบเหมือนเด็กปกติแล้วแต่มีอาการ*ไฮเปอร์แอคทีฟกับการเรียนยังต้องค่อยๆสอนไปสินะ” ทดสอบหน่อยดีกว่า เซฮุนคิด “คุณชื่ออะไรครับ?

“นาวดายเซบูนิโตปิ๊บปิ๊บ”

“ห้ะ? พูดดีๆสิ พี่หมอรู้ว่าเราตอบได้”

“โนติโมกุ๊กกุ๊ก”

“ไม่พูดดีๆใช่ไหม? สงสัยต้องทวนการฝึกเคลื่อนไหวลิ้นซะแล้วมั้ง” ว่าจบเซฮุนก็จับตัวลู่หานนั่งลงข้างๆตน ไม่พูดพร่ำทำเพลง คุณหมอก็รั้งคอร่างจ้อยและประกบปากทันที แรกๆเซฮุนกะจูบแบบปากแตะปากธรรมดาๆ แต่ลิ้นเจ้ากรรมกลับเผลอไปสัมผัสรีมฝีบางบาง แค่ภายนอกคุณหมอก็รับรู้ถึงความหวานแล้ว ข้างในล่ะจะละมุมขนาดไหน

เมื่อคิดได้ดังนั้นมืออีกข้างของเซฮุนก็จับคางของลู่หาน บีบน้อยๆเพื่อให้ร่างตรงหน้าอ้าปาก และแล้วเซฮุนก็ได้ชิมความหวานในโพรงปาก ลิ้นหนาละเลียดชิมน้ำหวานจากปากเล็ก คุณหมอไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ลู่หานกำลังทำให้เซฮุนเสพติด ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าละออกไปแล้วจะได้มีโอกาสแบบนี้อีกไหม...

“อืออ อือออ”

!!!” แต่แล้วจู่ๆก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น เซฮุนจึงจำต้องถอนจูบอันหอมหวานนี้ไป เมื่อละใบหน้าออกมาจากดวงหน้าเล็กแล้วทำให้เซฮุนตกใจหนัก ใบหน้าหวานๆของลู่หานตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ทั้งห้องดังไปด้วยเสียงสะอึ้น แต่ลู่หานไม่ได้ฟูมฟายอะไร “ละ..ลู่หาน พี่หมอขอโทษ” ร่างเล็กไม่ได้ตอบกลับเซฮุน แต่กลับจับมือของคุณหมอไปแตะที่อกข้างซ้ายแทน ซึ่งก็คืออาการ
.
.
.
.
“หัวใจเต้นแรง.. นี่ลู่หานหัวใจเต้นแรงเพราะพี่เหรอ...”



เนื่องจากวันนี้พ่อแม่ของลู่หานไม่อยู่ แล้วเซฮุนก็ไม่ค่อยมีคนไข้อยู่แล้วในชนบทแบบนี้ หมอใหญ่ก็เลยสั่งให้เขาดูแลเจ้าตัวเล็กนี้จนกว่าพ่อแม่น้องจะมารับ โดยสั่งว่า แกช่วยดูน้องด้วยยังไงก็ต้องรักษากันยาวอยู่แล้ว เอ้อ อย่าทำอะไรน้องนะ!” ท่านพูดพร้อมชี้หน้าคาดโทษ แต่ผมอยากจะบอกพ่อมากว่าคงไม่ทันแล้ว..

หลังจากที่เซฮุนจูบ อ่า.. นึกแล้วก็เขินๆเหมือนกันแฮะ ด้วยที่รูปลักษณ์น้องน่ารัก ตัวก็เล็ก ผิวขาว ดวงตาสุกใส แก้มกลมๆแดงๆ จมูกโด่งรั้น ปากกระจับชมพูระเรื่อแบบปากสุขถาพดี แถมน้องยังไม่เข้าใจอีกว่าที่เขาทำคืออะไร หวานหมูหมอเลยครับ เฮ้ย! ไม่ใช่สิ น้องเป็นคนไข้ ท่องไว้ น้องเป็นคนไข้ที่มึงต้องดูแลนะฮุนนะ ต้องดูแล ต้องดูแล.. ดูแลตลอดไปได้ไหมนะ...

“น้องลู่หาน ไปกินข้าวกันครับ” ลู่หานหันตามเสียงเรียกแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ดีแล้วหละ เซฮุนฟังภาษาต่างดาวของน้องไม่ออกหรอก ไม่รู้ว่าน้องคิดว่าตัวเองเป็นเด็กขวบสองขวบหรือไง ร่างเล็กเดินจับมือ ครับ จับมือเซฮุนแล้วแกว่งไปมาอย่างอารมณ์ดี อยู่เฉยๆไม่ได้เลยน้า เซฮุนคิด

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ลู่หานเป็นและต้องทานยาตลอดคือ อาการชัก กลุ่มอาการออทิสติกนี้ เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเป็นวัยรุ่น  ถ้ามีความบกพร่องด้านสติปัญญา(อาการดาวน์)ร่วมแล้วหละก็ จะมีความเสี่ยงต่ออาการชักสูงมาก แต่เด็กออทิสติกส่วนใหญ่ไม่มีภาวะบกพร่องด้านนี้สักเท่าไหร่ เพียงแต่เรียนรู้ช้า ไม่ค่อยเข้าใจ การแปลความเลยสับสน พูดถูกบ้างผิดบ้าง เรียงประโยคสลับกันบ้าง เลยทำให้เราไม่เข้าใจความหมายที่เด็กเหล่านี้จะสื่อ

ซึ่งระหว่างที่ร่างเล็กกำลังเดินวนรอบห้องตรวจของเขาอยู่นั้น เซฮุนก็ให้ลู่หานทำแบบทดสอบนิดๆหน่อยๆ จริงๆในส่วนนี้ต้องให้นักจิตวิทยาจัดการ แต่เซฮุนก็พอมีวิชาอยู่บ้างนะ ตอนที่ลู่หานทำอยู่ เซฮุนก็สังเกตพฤติกรรมคนไข้ของเขาไปด้วย ภาษากายสำหรับเด็กออทิสติกถือสำคัญ เพราะจะสื่อได้ดีกว่าการพูดหรือการแสดงอารมณ์ทางหน้าตา

เด็กเล็กนั้นยังไม่มีภาษาท่าทางในการสื่อสาร ไม่ชี้นิ้วบอกสิ่งที่ต้องการแต่จะจับมือคนอื่นไปชี้หรือพาไปใกล้สิ่งที่ต้องการแทน แต่สำหรับเด็กที่มีพ่อแม่ฝึกวินัยสอนลูกเสมอๆหรือพาลูกไปเรียนรู้พัฒนาการเป็นพิเศษ เด็กก็จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยในการสอน ดูจากประวัติต่างๆของลู่หานแล้ว เด็กคนนี้โชคดีมากๆเลย

“เออว่าแต่ลู่หานกินอะไรวะเนี่ย” เนื่องจากอาการออทิสติก คนที่เป็นมักจะทานอาหารเดิมๆซ้ำๆ เซฮุนเลยจัดการต่อสายหาหมอใหญ่ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าท่านจะรับสาย เมื่อมองดูเวลา ตอนนี้บ่ายโมงครึ่งแล้ว สงสัยกำลังเตรียมทำซีซ่าคนไข้ ลองๆถามน้องก็แล้วกัน เซฮุนคิค “น้องลู่หานทานอะไรครับ”

ลู่หานหันตามเสียง หน้าตาไม่ได้แสดงอะไร สักแป๊บปากเล็กๆก็ขยับ “ทานโคล่งต้ม”

“ห้ะ?

“โคร่งทานต้ม”

“ทานต้มโคล้งรึเปล่าครับหืม?” ลู่หานพยักหน้า อ่า.. อย่างน้อยๆน้องก็ตอบผมด้วยภาษาทั่วไปแล้วครับ แม้จะผิดๆถูกๆก็เถอะ น่ารักดี



ผ่านไปสองปี ลู่หานคบกับเซฮุนแล้ว รู้จักนานแล้วคบได้นะ ถถถถถ อย่างที่ว่าน้องคบกับเซฮุนแล้ว ทำเอาพยาบาลสาวหลายๆคนอกหักไปตามๆกัน เรียกได้ว่าตั้งแต่จนถึงตอนนี้ เซฮุนยังคอยประครบประหงมน้องดีเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างจ้อยได้ย้ายมาอยู่บ้านของคุณหมอโดยสมบูรณ์ เพื่อที่จะให้เซฮุนดูแลน้องได้สะดวกขึ้น

ส่วนเรื่องพ่อแม่ของลู่หานยิ่งไม่ต้องห่วงเลย ตอนที่ท่านทั้งสองรู้ว่าเซฮุนอยากดูแลน้องมากกว่านี้ ท่านทั้งสองก็ฝากฝังลูกชายของพวกท่านอย่างดี พวกท่านยินดีที่จะให้เซฮุนรักษาน้องไปตลอดชีวิต ตอนแรกๆที่ลู่หานย้ายมาน้องไม่สบตาใครเลย เพราะไม่คุ้นชินที่ใหม่ๆไหนจะต้องเจอคนใหม่ๆอีก อ้อ บ้านที่ว่านี้อยู่ชนบทนี่แหละ พอมีแม่บ้านอยู่สองคนคอยทำอาหารให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของน้อง เซฮุนทำเองดีกว่า

เช้านี้ลู่หานไม่ยอมลุกจากที่นอน ส่วนเซฮุนตื่นก่อนนานแล้วเพราะจะลงต้องไปทำอะไรให้น้องทาน เขาฝึกให้ลู่หานทานอย่างอื่นไปเรื่อยๆและคอยบอกน้องว่านี่คืออะไร นี่หอมอะไร ด้วยที่ว่าจะขุนให้ร่างจ้อยๆนี่อ้วนขึ้นมาบ้าง เพราะน้ำหนักน้อยซะเหลือเกิน คุณหมอจัดการอุ้มร่างเล็กโดยให้ลู่หานหันหน้าเข้าหาตน คนตัวเล็กก็รู้หน้าที่ดียกแขนตัวเองมาคล้องคอเซฮุนไว้เพื่อไม่ให้ตนตก คุณหมออุ้มน้องเดินเข้าไปให้ห้องน้ำ วางร่างเล็กให้นั่งตกขอบอ่างล้างหน้าแล้วยืนใช้แขนคร่อมร่างนั้นไว้ ทั้งสองจ้องตากันแล้วต่างคนต่างยิ้มให้กัน

“ถ้าพี่ขอจุ๊บจะได้ไหมครับ?

“ครับ” ร่างเล็กตอบพร้อมพยักหน้า

“ขอหอมแก้มด้วยได้ไหมครับ?

“ครับ” เด็กดี ว่านอนสอนง่าย J

ไม่รอช้าเซฮุนจุ๊บหน้าผาก จุ๊บจมูกรั้น จุ๊บปากของลู่หานก่อนจะใช้หน้าผากตนชนกับหน้าผากเล็ก ถูไถจมูกของตนกับจมูกรั้น และจุ๊บปากเพิ่มไปอีกหลายๆที ฟัดแก้มหอมนิ้มไปอีกฟอดใหญ่ ถึงจะยังไม่อาบน้ำแต่คนไข้ของเขาก็มีกลิ่มหอมประจำกายอยู่แล้ว และเซฮุนเสพติดกลิ่นนั้น ความหอมธรรมชาติจากฟีโรโมนของร่างเล็กทำเอาเซฮุนแทบคลั่ง เอ่อ เขาชักไม่มันใจแล้วว่าเขาเป็นหมอหรือโรคจิตกันแน่

“ขอจูบด้วยได้ไหมหืม?” ไม่มีอ้อมค้อม ขนาดนี้แล้วเซฮุนก็ขอกำไรจากลู่หานอีกสักหน่อยแล้วกัน

“อื้อ!” ร่างเล็กยังไม่มีโอกาสตอบเลยด้วยซ้ำ คุณหมอก็ชิงปากเรียวเล็กไปครอบครองเสียแล้ว เซฮุนดูดดุนปากล่างของลู่หานเหมือนมันเป็นซาหริ่มน้ำกะทิชั้นเลิศ

ลิ้นหนาเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กอย่างไม่ลดละ ความหอมหวานแผ่ซ่านไม่ทุกการเคลื่อนไหวของลิ้น เซฮุนรู้สึกเหมือนกำลังโดนมอมด้วยสิ่งเสพติดชนิดพิเศษ พิเศษสำหรับเขาคนเดียว ทุกๆครั้งที่ได้สัมผัสปากเล็ก ไม่มีครั้งไหนเลยที่เซฮุนอยากถอนสัมผัส ความนุ่มยุ่นหวานละมุมเหมือนสายไหม เรียกได้ว่าทุกอย่างของลู่หานเซฮุนเสพติดมากจริงๆ อารมณ์คุณหมอพุ่งพล่าน มือใหญ่อยู่ไม่สุกไล่จับนู่นนี่ สอดมือเข้าในเสื้ออย่างลืมตัว บางอย่างที่ปูดนูนในกางเกงถูไถวนไปกับหัวเข่าของลู่หาน

“ชะ..ช่วยพี่หน่อยนะ”

“ทำ..ทำอะไร?

“คั้นกะทิ” ว่าแล้วคุณหมอก็รูดกางเกงลง เผยให้เห็นแกนกายลำใหญ่ไซส์สามนิ้วมือ มือใหญ่ของเซฮุนจับมือเล็กๆให้มาสัมผัสกับลำแท่ง “ทำตามที่พี่บอกนะเด็กดี ระ..รูดขึ้นลง” ลู่หานก็รูดขึ้นลง “ทำไปเรื่อยๆนะครับ...อืมม แบบนั้น ซิ๊ดด” เหมือนลู่หานจะไม่รู้อะไร และเหมือนจะรู้สึกสนุก ร่างเล็กทำเร็วขึ้น เซฮุนพยายามหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อข่มอารมณ์ไม่ห้จับลู่หานกดกลางห้องน้ำนี่..

“ซิ๊ดด อึก! อ้า” ร่างสูงกระดุกเกร็ง ลูกนับล้านพวยพุ่งกระเซ็นจนโดนหน้าของลู่หาน เซฮุนเอาหน้าซบไหล่ร่างเล็กไว้ หายใจหอบถี่ก่อนจะรวบสติกับมามองหน้าลู่หานอีกครั้ง “เอ่อ น้องลู่อะ..อาบน้ำไปนะ พี่หมอก็จะไปอาบที่ห้องอื่น แต่งตัวเสร็จแล้วเจอกันข้างล่างนะครับ”

เซฮุนทำท่าจะเดินไป แต่มือเล็กรั้งแขนไว้ก่อน “ฮึก..ฮึก” พอหันกลับไปก็พบว่าลู่หานสะอื้น ตอนแรกเซฮุนตกใจมาก แต่พอน้องชี้ไปที่.. “แปลก ฮึก แปลกๆ” เป้ากางเกงของน้อง เซฮุนถึงได้รู้


สงสัยต้องจัดการให้น้องก่อนสินะ...



ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆ เซฮุนได้รับโทรจากครูพี่ปรึกษาว่าลู่หานอาละวาดอย่างหนัก ทำให้เซฮุนต้องรับไปรับที่โรงเรียน พอถามว่ามีเรื่องอะไรน้งก็จะกรี๊ดๆอย่างเดียว เซฮุนพาออกมาจากที่นั่นก่อนน้องจะอารมณ์ไปมากกว่านี่ นั่งรถออกมาได้สักพักลู่หานก็มีอาหารดีขึ้น แต่คราวนี้นั่งเหม่อมองทางหน้าต่างแทน ไม่พูด ดูซึม รถแล่นตามถนนใหญ่ไปเรื่อยๆ เซฮุนกำลังคิดว่า เขาควรพาลู่หานหาร้านเล็กอร่อยๆ เผื่อร่างเล็กจะอารมณ์ดี

แกร็ก “เฮ้ยย! ลู่หาน เปิดประตูรถทำไม!” จู่ๆร่างเล็กก็เปิดประตูรถขณะที่แล่นอยู่เลนกลางถนน โชคดีที่ลู่หานไม่ได้ดันประตูออกไป จึงไม่มีรถคันไหนชน ในสถาณการ์แบบนี้เซฮุนเลยเลือกที่จะขับเข้าเลนในของถนน ตอนนั้นน้องยอมปิดประตูแล้ว ขับเลาะๆไปเรื่อยๆจนถึงย่านที่มีร้านขนมเล็กๆเกือบๆถึงตัวเมืองในชุมชน รถคุณหมอจอดเทียบหน้าร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านประจำของน้องที่มาหลังเลิกเรียนเสมอๆ

“อ้าว น้องลู่ทำไมวันนี้มาไวจังครับ?

“เอ่อ ยูอีเดี๋ยวค่อยคุย วันนี้น้องอารมณ์ไม่ดี” เมื่อน้องไม่ได้ตอบอะไร เซฮุนจึงกระซิบเบาๆพอให้เป็นการส่งซิก ยูอีเป็นลูกเจ้าของร้าน เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว และกลับมาช่วยแม่ของเธอดูแลกิจการ เธอสนิทกับลู่หานพอสมควรก่อนเซฮุนจะมา เรียกได้ว่าแทบจะเป็นญาติกันแบบไม่ผูกสายเลือด “เอาเหมือนเป็นแล้วกัน ส่วนวันนี้พี่ของอเมริกาโน่ร้อนนะ”

“ค่ะ” ยูอีพยักหน้ารับ

ต่างคนต่างเงียบอยู่สักพักหนึ่ง “ไหนครับคนเก่ง เล่าให้พี่ฟังได้หรือยังว่าเป็นอะไร?” และแล้วเซฮุนก็ทำลายความเงียบลงด้วยกันมุ่งประเด็นที่ทำให้น้องอารมณ์ไม่ดีทันที

“พี่หมอ.. ลู่เป็นออทิสติก ใครๆก็บอกว่าลู่พิเศษ” เซฮุนเงียบตั้งใจฟังน้อง เหมือนพัฒนาการด้านการพูดจะดีขึ้นด้วยแฮะ เซฮุนคิด “แต่ลู่ไม่เข้าใจ พิเศษมันแปลว่าดีไม่ใช่เหรอ..” คราวนี้คุณหมอเริ่มขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าคนไข้ของเขาไปได้ยินอะไรมา “แล้วทำไมเพื่อนบางคนบอกลู่ปัญญาอ่อน ลู่โง่ ลู่เรียนไม่ได้ ครูบางคนก็บอกลู่ไม่น่าเกิดมาเป็นแบบนี้ ลู่ผิดอะไรเหรอครับ” คราวนี้ทำเซฮุนอึ้ง นี่คือความในใจของลู่หาน “ลู่ขอโทษนะ.. ที่ทำพ่อแม่เสียใจ ที่ทำให้พ่อแม่เหนื่อย และที่ทำให้พี่เดือดร้อนแบบครั้งนี้”

“ลู่หาน พอแล้ว ไอ้เด็กเวรพวกนั้นมันเป็นใคร พี่จะเอาเรื่องมันเดี๋ยวนี้!

“ลู่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดนะ โรคนี้ติดตัวลู่มา ลู่ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นออทิสติก แต่ลู่อยากเกิดมาเป็นลูกพ่อแม่นะครับ”

“ลู่หานพี่ขอร้อง พอเถอะนะครับ อย่าคิดมากเลยนะ ใครจะพูดอะระ..!!

“อย่ารังเกียจลู่เลย...” เซฮุนยังพูดไม่ทันจบ ลู่หานก็พูดแทรกมาเสียก่อน และมันทำให้คุณหมอเจ็บปวดไปด้วย

ทั้งๆที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่กลับเอาปมของคนมาล้อเล่น ไอบอดบ้างล่ะ ไอหนวกบ้างล่ะ ไอปัญญาอ่อนบ้างล่ะ คนที่เกิดมาครบสามสิบสองควรที่จะเห็นใจคนเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ หรือว่าเพราะพิการจึงไม่สามารถได้เท่าเทียมคนอื่นๆ เซฮุนไม่รู้ว่าลู่หานคิดเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ มันสะท้อนถึงความรู้สึกจริงๆ น้องพยายามพิสูจน์ทุกอย่างว่าน้องก็ทำได้เหมือนคนอื่นๆ เพียงแค่เรียนรู้ช้าแค่นั้นเอง เหนื่อยมากหรือเปล่าลู่หาน เหนื่อยเกินไปหรือเปล่าที่จะต้องแบกรับคำพูดมากมายเอาไว้ในใจ

“ใครจะพูดอะไรก็ช่างมัน พ่อแม่รักน้องลู่ พี่ก็รักน้องลู่ หมอใหญ่ ยูอี ทุกคนรักน้องลู่ ไม่เคยเดือนร้อนเพราะน้อง ไม่มีใครรังเกียจน้องนะครับ มีแค่พวกเราก็พอนะ ไม่ได้สนคนพูดไม่ดีเลย” เซฮุนพยายามปลอบใจน้อง แม้สีหน้าลู่หานจะยังดูไม่ดีก็ตาม ถึงเค้าจะพอมีวิชาเรื่องโน้มน้าวใจ แต่ก็ไม่ได้เรียนมาโดยตรงจนรู้วิธีหลายๆอย่าง และเขาไม่อยากให้ลู่หานเครียดจนต้องนอนโรงพบาบาลหรอกนะ

“ลู่ไปเข้าห้องนะครับ” ว่าจบน้องก็เดินไปเลย เซฮุนเป็นจิตแพทย์คนหนึ่งที่รักษามาหลาย*เคส แต่ก็ไม่เจ็บปวดเท่าลู่หาน ถึงอีกแค่หนึ่งปีน้องจะอายุยี่สิบแล้ว แต่พัฒการช้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกัน เด็กๆหลายคนที่เป็นโรคนี้ต้องคิดมากขนาดไหนกันนะ..

“กรี๊ดดดด ช่วยด้วยค่ะ ช่วยน้องลู่ด้วยย!!

สิ้นเสียงนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก เซฮุนรีบปรี่เข้าไปทางห้องน้ำด้านหลังทันที เมื่อไปถึงก็เจอกับยูอีที่ทรุดตัวนั่งร้องไห้อยู่ ที่ตักของเธอคือลู่หานที่กำลังชักอย่างรุนแรง คุณหมอรีบอุ้มคนไข้ของเขาออกจากร้านเพื่อนไปโรงพยายาลทันที สิ่งที่เขาไม่อากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ อาการชักเพราะสภาวะเครียดจัดมันไม่น่าเกิดกับน้องด้วยซ้ำ

น้องไม่เคยขาดยาที่เขาสั่งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะไม่เครียด อยู่ด้วยกันทุกๆวันทำไมถึงไม่สังเกตน้องนะปล่อยให้เผชิญปัญหานี้อยู่ตั้งนาน เมื่อถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ก็ต่างกรูเข้าหาลู่หาน เสียงสอบถามระหว่างเข็นเปลนอน ถึงห้องฉุกเฉินเซฮุนไม่ได้เข้าไปด้วยเพราะถูกสั่งห้าม ขืนเขาเข้าไปคงสติแตกทำอะไรไม่ถูกแน่ๆจึงทำได้แต่รอต่อไป จนเวลาผ่านไปสามสิบนาทีหมอห้องฉุนเฉินก็ออกมา

“เซฮุน ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้วนะ”

“ครับ”

“วันหลังดูแลน้องให้ใกล้ชิดกว่านี้ล่ะ เนี่ยแล้วยิ่งน้องเป็นออทิสติก ยิ่งต้องดูแลสภาพจิตใจเลย”

“ผมอาจจะดูแลได้ไม่เต็มที่เพราะการงาน แต่ผมจะพยายามนะครับ”

“อ่าๆ เดี๋ยวพี่ย้ายน้องไปนอน*ออบเสริฟก่อนแล้วกันนะ ถ้าไม่มีอาการกำเริบอีก รับยาแล้วก็กลับบ้านได้เลย”

“ขอบคุณครับพี่หมอ”

คุณเคยมีคนใกล้ตัวที่เป็นโรคนี้ไหม? คุณเข้าใจเขาหรือเปล่า? คนที่เป็นโรคนี้เขาน่าเห็นใจมากนะครับ หลายๆคนอาจจะคิดว่าเขาไม่รู้เรื่อง จริงๆแล้วในใจของเป็นแบบไหนเราก็ไม่รู้ เด็กที่แสดงความรู้สึกไม่เป็นเขาไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้มากหรอกครับ ถ้าไม่ฝึก ไม่พัฒนา ถ้าพ่อแม่ทิ้งลูกที่เกิดเป็นโรคนี้ไป น้องจะเป็นยังไง คิดว่ามันต้องเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวของเด็กๆแน่นอน เพราะฉะนั้นโปรดเห็นใจ เอ็นดู เด็กกลุ่มนี้ให้มากๆนะครับ คำพูดต่างๆนาๆที่คุณคิดว่าไม่ร้ายแรง แต่ส่งผลมหาศาลกับใจของคนๆหนึ่งมากนะ เหมือนกับทฤษฎี Butterfly Effect เพียงผีเสื้อขยับปีก ก็ส่งผลกระทบถึงดวงดาว ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ



#osออทิสติกลู่หาน



ครบแล้วนะคะ เศร้าอะ นี่แต่งก็เศร้าฮือ ขอบคุณเพจ ครูแนน นักกิจกรรมบำบัด นะคะ ที่บอกเรื่องราวของเด็กๆ เราอาจจะถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดี ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนจบแล้วน้า เอนจอยสะรีดดิ้ง จุ๊บๆ 




สาระน่ารู้ อิอิ
         
*ชาร์ท ( Chart ) คือ แฟ้มแข็งๆที่คุณหมอถือกันเวลาไปตรวจคนไข้ตามตึก เป็นแฟ้มบันทึกอาการหรือการรักษาของคนไข้นั่นเองค่า
*ซีซ่า ( Ceasar ) คือ การผ่าตัดทำคลอด เป็นอีกวิธีหนึ่งจากการคลอดปกติค่ะ
*ไฮเปอร์แอคทีฟ ( Hyperactive ) คือ อาการอยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด
*เคส ( Case ) คือ ผู้ป่วยค่ะ
*ออบเสริฟ ( Observe ) คือ สังเกตอาการค่ะ


วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

OS ' จ่ายมาซะดีๆก่อนที่ตัวเองจะก้นลายนะครับ : HUNHAN



Title : #จ่ายมาซะดีๆก่อนที่ตัวเองจะก้นลายนะครับ

Pairing : sehun x luhan

Image : เซฮุนนิสิตปี 4 กับพี่หัวหน้างานการตลาดลู่หาน แอร๊

PG – ใสๆวัยรุ่นชอบโน๊ะ (รึเปล่า..)



“เคยคุยกันว่ายังไงครับตัวเอง ตัวเองจำได้ไหม หืม?” เสียงกระซิบของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงในผับแห่งหนึ่ง ถึงแม้จะกระซิบเบาขนาดไหน ลู่หานก็จำได้ดีกว่านั้นคือเสียงใคร เพราะไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็จะได้ยินเสียงคนๆนี้ตลอด

“ซะ..เซฮุน ไหนวันนี้ ทะ..ทำโปรเจคไง” ใช่ และนั่นคือเสียงของเซฮุนแฟนของลู่หานเอง วันนี้เซฮุนบอกกับเขาว่าจะไปทำโปรเจคที่หอเพื่อน เป็นโปรเจคจบเสียด้วย แต่ไหงมาอยู่ที่ผับนี้ได้...

“โปรเจควันนี้คือ..” คือ...? “จับแฟนหนีเที่ยว!” โอ้โหชัดเจน

“ตัวเองง เค้าเปล่านะ เพื่อนมันให้มาเป็นเพื่อนมัน มันมาหาแฟนม๊านน เนี่ย เค้าก็อยู่เฉยๆ เหล้าก็ไม่แรงด้วย หนีทงหนีเที่ยวอะไร ไม่มี๊” งานนี้ อ้อน+แถคือสำคัญนะครับ

“ให้เลือกระหว่าง จ่าย กับ ก้นลาย เร็ว!!” กรี๊ดดดด

“จ่ายจ้า จ่ายแล้วกลับบ้านกันเนาะ”

“ผมว่าก้นลายดีกว่านะ ถ้าจะกลับบ้าน” ว้อท?!

“ม่ายยยยยย” เซฮุนจับลู่หานพาดบ่าแล้วเดินออกไปจากผับโดยไม่สนสายตาของใครๆที่มองมายังตน นี่คืออีกหนึ่งงานอดิเรกของเซฮุน นั่นก็คือ


จับแฟนหนีเที่ยว


เป็นแฟนเซฮุนง่ายนิดเดียว แค่ทำตามกฎของโอเซฮุนก็พอครับ J



ตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว และเซฮุนต้องไปมหาวิทยาลัยเวลา 7 โมง หลังจากทีเมื่อวานลงโทษตัวแสบไปแล้ว ฮั่นแน่ กำลังคิดอยู่ล่ะสิว่าก้นลายของเซฮุนคือการแจวจิ้มจึก โนวเลย ไม่ใช่เลย เซฮุนไม่ใช่คนแบบน๊านนน เซฮุนนอนมองหน้าลู่หานโดยไล่สายตาตั้งแต่แพขนตายาว จมูกโด่งรั้น แก้มอมชมพูนุ่นนิ่ม คางเรียว และกลีบปากสุขภาพดีน่าผัสสัม

จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! และแล้วร่างสูงก็ทนไม่ไหว จัดการจุ๊บอวัยวะทั้งห้าส่วนที่ตนมองไปด้วยความหมั่นเขี้ยว

“งื้อออ” ลู่หานดิ้นเพราะการรบกวนของร่างสูง เซฮุนคิดว่าตัวแสบต้องตื่นเพื่อเตรียมไปทำงานได้แล้ว เอาจริงคือเมื่อเซฮุนทำโทษลู่หานโดยการ
.
.
.
.
ตีก้น อ่านไม่ผิดหรอก ใช้ไม้แขวนเสื้อนี่แหละตี คนแสบๆดื้อๆแบบลู่หานต้องเจอแบบนี้ ก้นลายกันเลยทีเดียว แต่เมื่อคืนก็ทายาเสร็จสรรพก่อนนอนแล้ว เรื่องอาการระบมก้นก็ต้องมีบ้างอะไรบ้าง เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าไม่ควรทำอีก เซฮุนก็หวงของเซฮุนนะ

“ตื่นได้แล้วตัวเอง ต้องไปทำงานนะครับ” เซฮุนพบยายามปลุกคนตัวเล็ก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นสักที นี่ก็ได้เวลาของเขาที่จะต้องอาบน้ำแล้ว เซฮุนจึงไปอาบน้ำก่อนค่อยกลับมาปลุกอีกครั้ง

เวลาผ่านไปยี่สิบนาที ร่างสูงก็ออกจากห้องน้ำ “ทำไมไม่ปลุกเค้าอะตัวเอง?” ลู่หานพูดไปขยี้ตาไป เซฮุนส่ายหน้าน้อยๆแล้วแต่งตัวโดยที่ไม่ได้ตอบอะไร

“หืม อะไรครับตัวเน่า”

“ตัวเน่าอะไรเล่า! นี่แหนะ!” ลู่หานตีแขนเซฮุนอย่างแรง แรงเท่ามดตี ไม่ได้มีความเจ็บปวดอะไรเลย

“คิดว่าเจ็บเหรอครับ หืม? ไปเลย ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ตัวเน่า วันนี้เวรตัวเองทำอาหารเช้านะ” จบประโยคร่างเล็กก็ทำหน้าหงอยๆ แต่ถ้าให้ทำตอนนี้คงจะไม่ทัน เพราะเซฮุนจะต้องไปมหาวิทยาลัยแล้ว “ไม่เป็นไรหน่า คิดมาก นี่ถ้าตัวเองไม่รีบตัวเองจะโดนนะ ผมไปก่อนนะครับ” ถึงจะพูดแบบนั้นไป แต่เขาก็ยังไม่ได้ไหนอยู่ดี “ยัง ยังจะยืนเฉยอีก หอมสิครับ รอไร รอจ่ายเหรอครับ”

ฟอดดดด ร่างเล็กไม่รอช้าเลย หอมเซฮุนฟอดใหญ่ “ชื่นใจไหมมม?

“ชื่นใจครับผม”

“จริงๆวันนี้มีประชุมตอนบ่าย เค้าเลยไม่รีบอะตัวเอง เพราะงานเค้าก็เคลียร์หมดแล้ว” ร่างเล็กพูดออกมา อืม.. เซฮุนเลิกเรียนบ่ายพอดิบพอดี คงไม่ได้เจอตัวแสบเลยสินะ

“ครับ งั้นผมรอที่ห้องแล้วกันนะครับ แต่ถ้ามันว่างแบบไม่มีอะไรทำจริงๆ ผมขอไปห้องไอ้ชานนะ” ถึงจะเรียกเงินยังไงก็ยังอยู่ในโอวาท มีตึงก็ต้องมีย่อนเนาะ

“ได้เลยย ไปได้แล้วไป เดี๋ยวจะสายเอา” เซฮุนยิ้มตาหยีแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเริงร่า

ด้านลู่หาน

“ซิ้ดด โอ้ย อีห่อ ทำไมซาดิสงี้วะ เจ็บชิบเป้งเลยก้นกู อย่าให้ถึงตาเค้าบ้างนะ จะฟาดให้ร้องเล๊ยย”




หลังจากที่เซฮุนไปมหาวิทยาลัยแล้ว ลู่หานก็ทำการโทรไปหาน้องชายของตนให้เตรียมตัวเพื่องานที่จะเกิดขึ้น..


งานอะไรน่ะเหรอ เขาจะไม่บอกทุกคนหรอกนะว่าวันนี้เนี้ยเป็นวันครบรอบที่เขากับเซฮุนคบกัน ถถถถถถ


“โหล เจอกันที่ห้างอีกยี่สิบนาทีนะอาจวิ้น...เออน่า พวกนั้นมาจะป่วนมากกว่าเดี๋ยวเสียแผน...แกมาช่วยฉันน่ะดีกว่า...เออๆอีกยี่สิบนาทีนะ” ติ๊ด! หลังจากที่ลู่หานโทรคุยกันน้องของตนเสร็จ ก็จัดการกับตัวเองและเดินทางไปห้างด้วยเวลายี่สิบนาทีเป๊ะๆ

เมื่อถึงห้างลู่หานก็โทรหาน้องชายอีกครั้ง แล้วนัดให้ไปเจอกันโซนผักเลย ลู่หานน่ะเป็นหัวหน้างานการตลาดของบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนน้องชายของเขาร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขนมทานเล่น ที่มีทั้งอาหารคาวตะวันตกเล็กๆน้อยๆเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกดับเลี่ยนด้วย จึงพอดีที่ลู่หานอยากได้ร้านน่ารักๆจัดงานของเขากับเซฮุน มันจะดูฟรุ้งฟริ้งตะมุตะมิอิอิซ่าห้าห้าบวกเพียงใด แค่คิดลู่หานก็เขินจะแย่แล้ว

เขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่พอคบกับเซฮุน ไม่รู้สิ รู้สึกแค่ว่า คนนี้พิเศษ อยากทำอะไรน่ารักๆให้ แม้ว่าเซฮุนจะไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้ แต่ลู่หานก็ยังอยากทำ ชีวิตรักจะได้สดใสไง จะมามัวแต่ทำงาน เที่ยงบ้าง โดนแฟนตามทวงเงิน(?)อย่างเดียว มันไม่หวานนี่หน่า

“เจ้ๆ เลือกของไป ยิ้มอยู่ได้ เช็คสมองบ้างนะเจ้ ยังโอเคอยู่ไหมเนี่ย” เสียงของอาจวิ้น หรือ หวัง จวิ้นข่าย ลูกชายอาของลู่หานดังขึ้น ทำให้เขาหลุดจากภวังค์ แล้วหันไปทำตาค้อนใส่ เพราะประโยคแซวที่ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่นั่น “แซวแค่นี้ทำเป็น ขอโทษค้าบอาเจ้” จริงๆอาจวิ้นก็อายุพอๆกับเซฮุน ห่างกับลู่หาน 4 ปี แต่แล้วยังไงล่ะ เซฮุนพิเศษกว่าอยู่ดี

“ฉันเป็นพี่แกนะ เดี้ยะๆ จะรายงานป๊าแกว่าเทอมนี้พฤกรรมเป็นยังไง”

“เอาซี่ ถ้าอาเจ้รายงาน ก็ไม่ต้องเซอร์พงเซอร์ไพรส์มันแล้ววันนี้ ร้านปิดครับ!” โอ้ยยย นี่กูต้องง้อเด็กเหรอ เหอะ! ก็ตัองง้อสิครับโถ่ และพอลู่หานบอกว่านอกจากวัตถุดิบต่างๆจะออกเองแล้วยังจะจ่ายค่าสถานที่เพิ่มอีกเท่า อาจวิ้นก็รีบมาเลือกสรรพร้อมคิดว่าเมนูอันนั้นดีอันนี้เก๋ ลูกพี่ลูกน้องกูทำไมดีอย่างนี้ .กัดฟันพูดสุดอะไรสุด

“นี่ ฉันกะว่าจะกินกันสองคนบรรยากาศโรแมนซ์ๆนะ แล้วทำไมของมันเยอะงี้” เอาจริงลู่หานก็รู้แหละว่าอาจวิ้นมันอยากแจม เพราะยังไงเขาก็จะให้แฟนมันทำเสิร์ฟเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่คนมันอยากสวีทอะ เข้าใจป่ะ จะสวีทแบบสองต่อสอง

“หน่านะ ผมกับหยวนขอแจมด้วยหน่อย สัญญาจะไม่ขัด เค๊?” กรอกตามองบนพอเป็นพิธีก่อนจะพยักหน้ารับไป เอาเถอะ เด็กมันอยากสวีท แหนะๆ ไม่ต้องคิดนะ ไม่มี 4P อะไรทั้งนั้น “จ่ายเงินแล้วรีบไปโซนของตกแต่งเลย ผมโทรให้หยวนไปรอแล้ว รีบๆเดี๋ยวแฟนผมเมื่อย”

“อะจ้า พ่อรักแฟนห่วงแฟน เป็นแฟนหรือเป็นพ่อจ้ะ น้องหยวนไม่โดนฉุดไปกลางห้างหรอกไอน้องบ้า” ถึงจะพูดไปแบบนั้นลู่หานก็รีบจ่ายอยู่ดี อดห่วงน้องหยวน หรือ หวัง หยวน แฟนของอาจวิ้นไม่ได้เหมือนกัน เพราะน้องเขาไม่ค่อยได้ออกมาห้างหรือเที่ยวแบบเด็กวัยกำลังอยากลองเที่ยว อ้อ น้องเขาอยู่ ม.3 เด็กไหมล่ะ ด้วยความที่พ่อแม่น้องหยวนไม่ค่อยปล่อยเท่าไหร่(ไม่รู้ไว้ใจไอ้อาจวิ้นได้ไง)นานน๊านจะปล่อยน้องที

น้องเลยขอป้าสมัยแม่บ้านของอาจวิ้นทำอาหาร ทำขนม จนฉะฉานเลยล่ะ น้องเรียนรู้ไวเป็นไว ไม่เหมือนไอ้แก่ปี4กินเด็กที่มีเซ้นท์เรื่องเลือกของสดของแห้งวัตถุดิบต่างๆได้ดีแต่ดันขี้เกียจทำ เดินจนถึงโซนของตกแต่งมากมายก็เห็นเด็ก ม.ต้น โบกมือไหวๆอยู่ โล่งอกทีไม่โดนฉุดไปจริงๆ ด้วยหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้ม ทำให้เวลาอาจวิ้นพาไปเที่ยวที่ไหนก็มีแต่คนมองเหลียวหลัง

“สวัสดีครับพี่ลู่” ลู่หานรับไหว้น้องแล้วกะลูบหัวเล่น แต่มือยังไม่ทันจะถึงหัวก็โดนฟาดไปอย่างแรง เอ้า ไอ้นี่ กูยังเป็นพี่มึงอยู่ไหมห๊ะ?! ตอบ!!

“อย่าเยอะๆ”

“มึงนั่นแหละ กูก็มีของกูเถอะ ทำไมมึงนี่ชอบทำกูโมโห ฮึ? นี่น้องสะใภ้กู เค๊? กูเล่นกูหยอกเพื่อสร้างความสนิทสนมก่อนพวกมึงแต่งกันไง โอ้ยมึงนี่!” ต้องให้กูเล่นใหญ่เล่นโตโอเว่อร์แอคติ้ง ฮ่วย!

“งื้ออ พี่ลู่พูดอะไร ต่งแต่งอะไรผมไม่แต่งหรอก”

“อ่าว หยวน ไหงสัญญากันแล้วไงว่าจะไปแต่งที่สวนสนุก”

“อะ..เอ๋ ผมพูดแบบนั้นเหรอฮะ?

“หย๊วน TOT” สร้างเสียงหัวเราะให้น้องหยวนกับลู่หานยกใหญ่ เสร็จก็ตกลงต่างคนต่างแยกไปซื้อเพื่อความรวดเร็ว



บ่ายกว่าๆเซฮุนกลับถึงห้อง เขาว่าลู่หานคงจะออกไปได้เกือบชั่วโมง เวลาคนตัวเล็กประชุมทีไร ประชุมนานตลอด และจบลงที่กึ่งร้านอาหารกึ่งสถานอโคจรทุกครั้ง ถ้าครั้งนี้เป็นอีกคงไม่ต้องบอกเนาะว่าจะเกิดอะไรขึ้น คิดไปก็เท่านั้นเซฮุนไปเล่นที่ห้องชานยอลเพื่อนต่างสถาบันของเขาที่อาศัยถัดไปอีกสามห้องเพื่อฆ่าเวลาดีกว่า

ก๊อกๆ เซฮุนเคาะประตู “เฮ้ยชาน กูเข้าไปเล่นเกมได้ไหมวะ?” เซฮุนตะโกนถาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกับมา สงสัยแม่งนอนกกเมียแหงๆ ช่างมัน ไปนั่งเล่นที่ห้องต่อก็ได้ เซฮุนจึงกลับห้องของตน

ที่ห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ พลาสม่าทีวีติดจานแบบดูได้ทั้งช่องในและต่างประเทศ ครับ อย่างที่คิดคือเงินพี่ลู่ล้วนๆเลย แต่เซฮุนเนี่ยเป็นเจ้าของห้อง บริษัทของลู่หานอยู่ใกล้ๆหอเช่นเดียวกับมหาวิยาลัยของเขา จึงเดินทางไปทำงานไปเรียนได้สะดวก


เอาง่ายๆเลย ชีวิตนี้สะดวกมากกก เพราะเมียเลย แหม่ ถถถถ (แลเลวนะคะ)


ร่างสูงเปิดโทรทัศน์ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่เตียง กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ พลางนึกถึงครั้งแรกที่เขาเจอลู่หาน คบกับผมไหมครับ แต่มีกฎนะ แค่ บลาๆ บลาๆ ร่ายยาวไปนู่น แต่แล้วใครจะคิด ว่าลู่หานจะตกลง หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ติดต่อกันเล็กๆน้อยๆ นัดกันทานอาหาร ไปเที่ยวด้วยกันนิดหน่อยหลังพี่เขาเลิกงาน สุขี๊สุขี เซฮุนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงโทรทัศน์คลอๆ ไม่นานร่างที่อยู่บนเตียงก็หลับไป..



ทางด้านลู่หานเอง ก็เตรียมของไปเรื่อยๆ จัดตรงนั้นแต่งตรงนี้เพื่อความหวาน อิอิ

“น้องหยวน พี่อยากทำเค้กจัง” เสียงอ้อนของลู่หานทำเอาหยวนยิ้มขำ วันนี้ลู่หานดูมีความสุขมาก แทบจะขอทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลยทีเดียว อย่างตอนนี้ก็จะขอทำเค้กเพื่อคนรักของพี่เขา โมเมนต์ปิดร้านเซอร์ไพรส์ก็ใช่จะหาได้ง่ายนะ สมัยนี้นิยมแต่ขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆเอาตุ๊กตาหมีตัวโตให้สาวๆกันทั้งนั้น ในเฟสพี่จวิ้นก็แชร์กับเพียบเลย(ไม่มีเฟสของตัวเอง เล่นของแฟน แถมแฟนยังให้เล่นได้ตามสบาย พร้อมบอกว่า ตอบแชทที่ทักๆมาให้ด้วยนะครับ บอกไปเลยว่าพี่มีแฟนแล้ว น่ารักมากด้วย)

“โอเคครับพี่ลู่ ที่พี่ซื้อมานี่ดาร์กช็อคโกแลต? แฟนพี่ชอบเหรอครับเนี่ย ขมจ้น”

“อือ แฟนพี่ชอบ -/////- ชอบมากด้วย” เพราะลู่หานก็ชอบ..

“งั้นผมว่าเรามาเริ่มจากละลายดาร์กช็อคกันเลยดีกว่า...”
                                                                                                 


เซฮุนตื่นแล้ว.. เมื่อมองไปยังนาฬิกาก็พบว่ามันหกโมงครึ่ง พอมาคิดๆดู นานไปสำหรับประชุมบ่ายแล้วล่ะมั้ง


จริงๆวันนี้มีประชุมตอนบ่าย เค้าเลยไม่รีบอะตัวเอง เพราะงานเค้าก็เคลียร์หมดแล้ว


“งานเคลียร์หมดแล้วทำไมประชุมนานงี้ว่ะ แม่งหนีเที่ยวอีกแน่ๆ ไม่เข็ดใช่ไหมตัวเอง โดนเอ็นตีก้นไม่เข็ดใช่ไหม แบบนี้ต้องเล่นของซะแล้ว!!



เซฮุนกระหน่ำโทรหาลู่หานไม่ยั้ง แต่โทรไปกี่ครั้งก็ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมาเลย รัวแชทแอพพิเคชั่นต่างๆนาๆก็ยังไม่มีการอ่าน นี่คนตัวเล็กอยากจะลองของมากนักหรือยังไง หงุดหงิด หงุดหงิดจริงๆ ไม่ใช่ว่าเซฮุนไม่ปล่อยให้เที่ยวให้ไปไหนมาไหนเลยหรอกนะ แต่รายนั้นชอบไปไหนไม่บอก โทรไปก็รับบ้างไม่รับบ้าง ยิ่งตัวขาวๆเล็กๆหน้าตาจิ้มลิ้มน่าหมั่นเขี้ยวขนาดนั้น โดนจับตัวไปเซฮุนอกแตกแน่ๆ เห็นไหม เซฮุนห่วงลู่หานจะตาย

“ไม่รับสาย 30 สาย คูนกับยี่สิบ ไปไหนไม่บอก 50 บาท แชทไม่ตอบเลยเพิ่มเป็น 50 คูนห้าแชทเป็น 250 บาท ไม่ห่วงตัวเอง 100 บาท หนีเที่ยวเหรอ คูนสองเป็น 200 บาท รวมทั้งหมด 1,200 บาท หึมม คดีเยอะเหลือเกินนะตัวเอง คิดค่าคดีเพิ่มอีก บลาๆ บลาๆ” เซฮุนพูดงึมงำๆคิดเลขนั่นนู่นนี่ไปเรื่อยๆ (อ่านวนไปบรรทัดสุดท้ายย่อหน้าบนครับ)

เซฮุนโทรหาลู่หานอีกครั้งและเรื่อยๆ เอาจริงๆ เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ เพื่อให้เข็ดเลยต้องใช้วิธีเก็บเงิน แรกๆก็ใช้ได้ผลอยู่หรอก แต่ตอนนี้คิดว่ามันคงไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เพราดูเหมือนลู่หานจะแหกกฎของเซฮุนแทบทุกอย่างเลย ต้องเปลี่ยนมาตรการใหม่ซะแล้วล่ะอย่างนี้

ติ๊ด! “ตัวเองอยู่ไหน?! ไปทำอะไรวะ เดี๋ยวไปหา เจอดีแน่ๆครับไม่ต้องห่วง เช็คบิลทุกคดีแน่นอนครับ!” ติ๊ด! แล้วเซฮุนก็วางสายไป

ร่างสูงจัดการกับตัวเองเพื่อเดินทางไปร้าน *มัน ดิบ ดี  ร้านที่น้องของลู่หานเป็นหุ้นส่วน ตอนนี้อารมณ์ของเซฮุนพุ่งถึงขีดสุด ไม่นานร่างของเซฮุนก็มาถึงร้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับร่างเล็กที่ยืมยิ้มอยู่ แต่เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นพุ่งไปจับแขนลู่หานเขย่าไปพูดไปว่า..

“ทำไมชอบทำอย่างงี้ห้ะ! ไปไหนก็ไม่บอก โทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะรับสาย ทำไม! มีคนใหม่หรือยังไงวะ ชอบมากใช่ไหม? ไปเที่ยวกับเพื่อนอะ ไม่อยากให้ผมตามใช่ไหม? เออ เอาสิ เลิกแม่งเลย! จะได้หลุดพ้นจากผม ได้เที่ยว ได้เจอผู้ชาย ได้ถึงเตียงกันเลยมั้ง”

ผัวะ!

!!! ไอเหี้* มึงต่อยกูทำไมวะ!

“มึงแหกตาดูด้วยว่ามึงทำอะไรลงไป ไอควายเอ้ย!

“ฮึก ฮือ ฮือ” เสียงร้องไห้ทำให้เซฮุนได้สติ แล้วมองไปรอบๆดีๆก็เห็นร้านที่ประดับประดาไปด้วยของตกแต่งมากมายอย่างน่ารัก ก่อนจะไล่สายตามาหยุดที่ตัวลู่หานที่ร้องไห้ไม่หยุดเหมือนคนเสียขวัญหนักๆ

“ตะ..ตัวเอง” เซฮุนเรียกเสียงแผ่ว ร่างสูงเดินเข้าไปหวังจะจับร่างเล็กอีกครั้งแต่ลู่หานถอยหนี

“ฮึก ทำไม ฮือ” เกิดความเงียบขึ้นในขณะที่ลู่หานพูด “ทำไมต้องตะคอก ทำไมต้องว่าเค้าแบบนั้นด้วย ฮือ ฮึก เค้าไม่เคยทำแบบนั้นตัวเองก็รู้ แล้วที่เค้าไม่ค่อยรับสายก็เพราะเค้ายุ่งจริงๆ ฮือ ตัวเองไม่เคยฟังเค้า เค้าก็ไม่เคยที่จะแก้ตัว ปล่อยให้ตัวเองเก็บเงิน กระทำเค้า(?) ถ้ารู้ว่ามันจะทำให้ตัวเองคิดแบบนี้ เค้าจะอธิบายแม่งไปเลย ถึงแม้ตัวเองจะไม่ฟังก็ตาม ฮึก ฮือ” จากที่ลู่หานคิดว่าทั้งร้านจะมีแต่เสียงหัวเราะ กลับกลายเป็นมีแต่เสียงร้องไห้ของตัวเองแทน

เซฮุนที่ได้ยินดังนั้นก็ได้แต่เงียบ เพราะทุกอย่างที่ลู่หานพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด เขาไม่เคยฟังลู่หานเลยสักครั้ง.. เซฮุนผิดเต็มๆ เขาทำให้คนตัวเล็กร้องไห้ ทั้งที่เคยสัญญาไว้แล้วแท้ๆว่าจะไม่ทำ “เค้าขอโทษ..” เซฮุนไม่มีอะไรจะพูดจริงๆนอกจากคำว่าขอโทษ เขารู้ว่าแค่นี้มันคงไม่พอ มันไม่เท่ากับที่เขาพูดกับลู่หานไปเลยด้วยซ้ำ

“เค้าไม่ให้อภัย..” สิ้นประโยคหัวใจของเซฮุนแตกสลาย เขาไม่อยากเสียคนๆนี้ไป แต่แล้วก็มีอีกประโยคที่ทำให้หัวใจเซฮุนพองโตขึ้นมา “แต่เค้าจะให้โอกาส วันนี้ฉลองกันก่อน แล้วพรุ่งนี้จะเป็นโอกาสของตัวเองนะ”

“ครับ ขอบคุณนะตัวเอง ขอบคุณที่ให้โอกาสเค้า”

“งานก่อยเพราะมึงเลยจริงๆ ผู้ชายอะไรคิดเป็นตุเป็นตะ”

“เดี๋ยวพอแฟนมึงเที่ยวเป็น มึงก็จะเป็นแบบกูนี่แหละไอจวิ้น”

“ตัวเอง” ลู่หานเรียกเซฮุนที่กำลังคุยอยู่กับจวิ้นข่าย ร่างสูงที่หันไปทิศทางเดียวกันกับเสียงต้องตาวาวขึ้นมาเมื่อเห็นเค้กป้อนกำลังกินสองคนอยู่ตรงหน้า “เค้าทำเองด้วยนะ เค้กดาร์กช็อคโกแลตที่ตัวเองชอบไง” ได้ยินดังนั้น เซฮุนก็ยิ้มกว้างทันที

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับตัวเอง”

ต่างคนต่างยิ้มให้แก่กัน

“ตัวเองครับ” ลู่หานเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ทั้งเค้าคิดว่า 1200 บาทครับ แต่ตัดไปหนึ่งคดีเหลือ 1000 บาทนะครับ”

ลู่หานคิด เอเดาะ..



เวลาล่วงเลยจนถึงสามทุ่ม เซฮุนก็พาลู่หานกลับหอก่อน โดยจวิ้นข่ายกับหยวนบอกว่าจะเก็บเอง ให้กลับไปได้เลย คนตัวเล็กนั่งรถเซฮุนไป พอถึงหอ ลู่หานก็เดินไวกว่าปกติเร็วจนเซฮุนต้องรั้งแขนไว้แล้วถามว่าเป็นอะไร

“หมดเวลาของนายแล้ว”

“ห้ะ?

“ต่อไปนี้แบ่งที่นอนด้วยนะ อ้อ
.
.
นอนเลยเขต 200
ทำตัวรุ่มร่ามไม่เข้าเรื่อง 1000
ขัดใจฉัน 300
ตอบแชทช้า 500
โทรไปแล้วไม่รับให้เร็วหรือไม่รับเลย 1000 คูนต่อสายด้วย
บลาๆ บลาๆ บลาๆ...”

“โดนแล้วไหมล่ะกู...”


THE END



*มัน ดิบ ดี Tattoo Studio & Soft Drinks เป็นร้านที่กำลังบูมในหมู่นักเรียนที่ปากช่องนะคะ แฮ่ แอบโปรโมท ร้านนี้ของอร่อยเพียบอยู่นะ แนะนำไม่ถูกเยย มาปากช่องสิคะ เดี๋ยวนี่พากินเอง ๕๕๕๕๕๕๕๕๕

โอมากๆเลยอะ โอโห้อีเห้ออกทะเลชิบเป้งเลยค่ะ ถถถถถถถถถถ ครบแล้วครับ จบได้ไม่ค่อยสวยงามเลยเนาะ ขออภัยนาจา จบแบบอยากต่อยอดอะ ๕๕๕๕ แกล้งเซฮุนมันซะ มาว่าลู่ได้ยังไง ไตล้ายมั๊ก อินิสิตพบ้า พบ้าไปหมด ฮวื่ออ เวิ่นเยอะแย้ว ._. ขอบคุณที่ติดตามอ่านด้วยนะคะ เอนจอยสะรีดดิ้ง มุมิจี้